เริ่มนำออกใช้ :
เริ่มทยอยออกใช้เมื่อพุทธศักราช 2485
ชนิดราคา :
มี 4 ชนิดราคา ได้แก่ 1 บาท 10 บาท 20 บาท และ 100 บาท
ลักษณะสำคัญ :
รูปแบบเหมือนธนบัตรแบบ 4 ที่พิมพ์จากบริษัท โทมัส เดอ ลา รู จำกัด แต่พิมพ์ที่กรมแผนที่ทหารบก ธนบัตรแบบนี้จะพิมพ์คำว่า กรมแผนที่ ไว้ตรงขอบล่างของธนบัตรทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
เกร็ดน่ารู้ :
กองกำลังญี่ปุ่นที่ตั้งฐานทัพในประเทศไทยอ้างว่าภาษาไทยเรียนรู้ยากต้องการให้ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาราชการ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเราอาจต้องกลายเป็นเมืองขึ้นของญี่ปุ่น เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ รัฐบาลในยุคนั้น จึงปรับปรุงชุดอักษรไทยใหม่ ดังข้อความที่พิมพ์บนธนบัตรแบบ 4 ในรุ่นที่ 2 เช่น
รัถบาลไท ธนบัตรเปนเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกดหมายรัดถมนตรีว่าการกะซวงการคลัง เป็นต้น แต่การใช้ภาษาไทยในรูปแบบนี้ใช้ได้เพียงสองปีเศษ เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลก็กลับไปใช้รูปแบบเดิมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
พิมพ์ที่
กรมแผนที่ทหารบก
ผลกระทบจากสงคราม
เมื่อพุทธศักราช 2484 กองทัพญี่ปุ่นได้ยกกำลังเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นในการส่งกำลังพลเข้ายึดครองประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และพม่า ซึ่งเป็นอาณานิคมของประเทศคู่สงคราม จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ความต้องการใช้ธนบัตรในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก หากแต่การสั่งพิมพ์ธนบัตรจากต่างประเทศไม่สามารถกระทำได้อย่างที่เคยปฏิบัติมา ดังนั้น เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนธนบัตร รัฐบาลไทยจึงตัดสินใจพิมพ์ธนบัตรขึ้นใช้เอง โดยใช้กระดาษจากโรงงานกระดาษไทย จังหวัดกาญจนบุรี และมอบหมายให้โรงพิมพ์ของทางราชการและของเอกชนบางแห่งจัดพิมพ์ ธนบัตรที่พิมพ์ขึ้นในช่วงสงคราม ได้แก่ ธนบัตรแบบ 4 (กรมแผนที่) แบบ 5 แบบ 6 แบบ 7 และแบบพิเศษ
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น