วัตถุมงคลดี พิธีใหญ่ เหรียญคุ้มเกล้า สร้างเมื่อปี 2522 ที่หลายคนต่างหาเช่าเก็บไว้บูชา ด้วยเหตุที่เป็น ของดี ที่ในหลวงเสด็จฯ ทรงประกอบพิธีเททอง
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ′ทรงทำอุปการะก่อนแก่พสกนิกร เพราะทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจโดยธรรม อีกทั้งยังให้ความสุข ความเจริญแก่พสกนิกร ชื่อว่าทรงเป็นบุพการีของพสกนิกร ซึ่งเหล่าพสกนิกรชาวไทยจักถวายความจงรักภักดีเป็นล้นพ้นดุจบิดาของตน′
ดังนั้น เมื่อมีการสร้างวัตถุมงคลที่ระลึกต่างๆ จึงมีผู้ให้ความสนใจอย่างมาก เพราะคนไทยทั้งปวงต่างเชื่อมั่นว่า ผู้ใดมีพระบรมฉายาลักษณ์ไว้บูชาจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลสูงสุดและปลอดภัยจากภยันตรายทั้งมวล จึงทำให้วัตถุมงคลที่จัดสร้างเป็นที่ระลึก ซึ่งมีพระบรมรูปและพระปรมาภิไธยย่อ ′ภปร′ ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ไหน แบบไหน ปีไหนล้วนเป็นที่ปรารถนาและทรงคุณค่าอย่างยิ่ง รวมทั้งมีมูลค่าในการสะสมเพิ่มขึ้นไปตามกาลเวลา
ตลอดปี 2554 ซึ่งตรงกับปีมหามงคลที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7รอบ 84 พรรษา นอกจากจะมีการจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อเป็นที่ระลึกและร่วมเทิดพระเกียรติแล้ว ยังส่งผลให้พระเครื่องและของที่ระลึกรุ่นเก่าๆ ของรัชกาลที่ 9 กลับมาได้รับความนิยมและเป็นที่เสาะหากันอย่างคึกคักอีกครั้ง อย่างเช่น วัตถุมงคลดี พิธีใหญ่ ′เหรียญคุ้มเกล้า′ สร้างเมื่อปี 2522 ที่หลายคนต่างหาเช่าเก็บไว้บูชา ด้วยเหตุที่เป็น ′ของดี′ ที่เสด็จฯ ทรงประกอบพิธีเททอง
สำหรับ ′เหรียญคุ้มเกล้า′ มีประวัติการสร้างดังนี้ เนื่องในวาระครบรอบ 30 ปีของการให้บริการโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชเมื่อ 27 มีนาคม 2522 กองทัพอากาศได้ดำริสร้างอาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉินขนาดใหญ่สูง 12 ชั้นที่ทันสมัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลและเสริมสร้างบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมบรรดาผู้ป่วยทั้งหลายไปชั่วกาลนาน โดยสิ้นค่าใช้จ่ายกว่า 600 ล้านบาท จากเงินที่ประชาชนทั่วประเทศร่วมใจกันบริจาค
ในการรณรงค์หาทุนสร้าง ′อาคารคุ้มเกล้าฯ′ และจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยไว้ใช้ในอาคารคุ้มเกล้าฯ กองทัพอากาศได้จัดสร้าง ′วัตถุมงคลคุ้มเกล้า′ ขึ้นเพื่อสมนาคุณแก่ผู้มีจิตศรัทธา ให้การสนับสนุน ประกอบด้วย พระพุทธรูปบูชา พระกริ่ง และเหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ′ภปร′ ประดิษฐานที่เหรียญ และทรงให้ช่างในพระองค์เป็นผู้ปั้นแบบเหรียญพระบรมรูปด้านหน้าเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ ด้านหลังเป็นพระปรมาภิไธยย่อ ′ภปร′ พิธีลงอักขระแผ่นทอง นาก เงิน แผ่นยันต์อักขระที่ใช้สร้าง ′เหรียญคุ้มเกล้า′ ได้จัดพิธีลงอักขระ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพ มหานคร โดยมี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธานพร้อมด้วย สมเด็จพระราชาคณะและพระเถระผู้ใหญ่รวม 60 รูป ทำพิธีลงอักขระแผ่น ทอง นาก เงิน เป็นปฐมฤกษ์ หลังจากนั้นได้นำแผ่น ทอง นาก เงิน ไปให้พระเถราจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทั่วประเทศ จารึกอักขระจนครบ 1,250 รูป
พิธีเททองหล่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถเสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทรงเททองหล่อพระพุทธรูปคุ้มเกล้าฯ ณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งตรงกับวันที่′หลวงปู่แหวน สุจิณโณ′ มีอายุครบ 97 ปี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2527 โดยมีสมเด็จพระสังฆราช พร้อมด้วยพระเถระผู้ใหญ่ผู้ทรงคุณอีก 9 รูป เจริญชัยมงคลคาถา ในโอกาสนี้ได้ทรงทำพิธีหลอมแผ่นทอง นาก เงิน ที่ได้ทำพิธีลงอักขระแล้ว เป็นชนวนนำไปสร้างวัตถุมงคลคุ้มเกล้าต่อไป
จากนั้น ประกอบพิธีพุทธาภิเษกหมู่อย่างใหญ่โตมโหฬาร 4 วัน 4 คืน 6-9 เมษายน2527 โยงสายสิญจน์จากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามมายังปะรำพิธี ณ ท้องสนามหลวง นิมนต์พระเถรานุเถระผู้ทรงคุณ เกจิอาจารย์ดัง 108 รูปจากทั่วประเทศผลัดเปลี่ยนกันนั่งปรกปลุกเสกตลอดรวม 4 คืน อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงปู่ดูุลย์ วัดบูรพาราม, หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง, หลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า, หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง เป็นต้น
โดยเฉพาะ ′หลวงปู่แหวน′ ที่มาร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิต นับว่าเป็นวาระพิเศษส่งผลให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ไม่ธรรมดาในสายตาของนักสะสม มีผู้กล่าวถึงและว่าท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์ เปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรม และมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่างๆ วัตถุมงคลของท่านต่างร่ำลือในความเข้ม มีผู้นิยมแสวงหาไว้พกพาติดตัว เพื่อความเป็นสิริมงคล
เหรียญทุกรุ่นที่หลวงปู่แหวนอธิษฐานจิตปลุกเสก พุทธคุณโดดเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรือง การเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย สยบสิ่งชั่วร้ายต่างๆ นานา วัตถุมงคลที่นิยมมากคือ ′เหรียญหลวงปู่แหวนรุ่นแรก พิมพ์หน้าวัว′
สำหรับวัตถุมงคลรุ่นคุ้มเกล้า ในวันแรกของพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงจุดไฟพระฤกษ์ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มอบให้พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. อัญเชิญเข้าขบวนแห่มายังปะรำพิธี จากนั้นในเวลา 19.19 น. สมเด็จพระสังฆราช เสด็จมาจุดเทียนชัยจากไฟพระฤกษ์
เริ่มพิธีพุทธาภิเษกจนถึงรุ่งอรุณของวันที่ 4 สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธานดับเทียนชัย เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษก นับเป็นพิธีพุทธาภิเษกที่ต้องจารึกเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ว่า พิธีนี้ใหญ่จริงๆยามนี้จึงมีประชาชนถวิลหาเช่าบูชา′เหรียญคุ้มเกล้า′ กันอย่างกว้างขวาง ทั้งในแวดวงเซียนพระเองก็ตาม ต่างเก็บเหรียญนี้ เพื่อเก็งกำไรเพราะเชื่อว่ารุ่นนี้มีอนาคตสดใส ซึ่งก็เป็นจริงตามที่คาดการณ์เอาไว้ ราคาของเหรียญเริ่มขยับขึ้นเรื่อยๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 9 เมษายน 2555 และ วันที่ 10 เมษายน 2555
และ http://thaigoldcoin.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น